1.Denial of Service คือ การกระทำที่ป้องกันมิให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบข้อมูลอัตโนมัติสามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์ของส่วนนั้น
2.Information Security คือ การรักษาความปลอดภัยทางข้อมูล :
ผลที่เกิดขึ้นจากการใช้ระบบของนโยบายและ/หรือระเบียบปฏิบัติที่ใช้ในการพิ
สูนจ์ทราบ ควบคุม และป้องกันการเปิดเผยข้อมูล
(ที่ได้รับคำสั่งให้มีการปกป้อง) โดยไม่ได้รับอนุญาต
3.Integrity คือ ความสมบูรณ์ คือ การับรองว่าข้อมูลจะไม่ถูกเปลี่ยนแปลงหรือทำลาย ไม่ว่าจะเป็นโดยอุบัติเหตุหรือโดยเจตนาร้าย
4.Mockingbird คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือ process ที่ทำทีเป็นว่าปฏิบัติหน้าที่ตามปกติในระบบ แต่จะทำกิจกรรมที่มีเจตนาร้ายทันทีที่้ผู้ใช้สั่ง
5.Threat Assessment การประเมินภัยคุกคาม คือ กระบวนการประเมินค่าอย่างเป็นทางการของระดับการคุกคามต่อระบบข้อมูลและการอธิบายถึงลักษณะของภัยคุกคาม
6.Worm (หนอนอินเตอร์เน็ต) เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์
เช่นเดียวกับโปรแกรมไวรัส
แต่แพร่กระจายผ่านเครือข่ายไปยังคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครื่องอื่น ๆ
ที่ต่ออยู่บนเครือข่ายด้วยกัน
ลักษณะการแพร่กระจายคล้ายตัวหนอนที่เจาะไชไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ
แพร่พันธุ์ด้วยการคัดลอกตัวเองออกเป็นหลาย ๆ โปรแกรม
และส่งต่อผ่านเครือข่ายออกไป และสามารถแพร่กระจายผ่านทางอีเมล์ได้
ไม่ว่าจะเป็นOutlook Express หรือ Microsoft Outlook เช่น
เมื่อมีผู้ส่งอีเมล์และแนบโปรแกรมติดมาด้วย ในส่วนของAttach
file ผู้ใช้สามารถคลิ๊กดูได้ทันที
การคลิ๊กเท่ากับเป็นการเรียกโปรแกรมที่ส่งมาให้ทำงาน
ถ้าสิ่งที่คลิ๊กเป็นเวิร์ม เวิร์มก็จะแอกทีฟ และเริ่มทำงานทันที
โดยจะคัดลอกตัวเองและส่งจดหมายเป็นอีเมล์ไปให้ผู้อื่น
7.Emploit คือ
คำที่มาจากภาษาฝรั่งเศาเกิดจากการที่เอาคำ 2 คำมาผสมกันมีความหมายว่า
“achievement” หรือว่า “accomplishment” แปลว่า ความสำเร็จ, หาผลประโยชน์
ซึ่งโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ทำการเจาะระบบโดย
อาศัย ช่องโหว่ของ software,
hardware หรือช่องโหว่ต่างๆเพื่อที่จะเข้าทำการครอบครองหรือควบ
คุม computer เพื่อที่จะให้กระทำการบางอย่าง เช่น
การขโมยข้อมูลหรือใช้ในการ denial of service attack และอื่นๆ
8.Network Security การรักษาความปลอดภัยเครือข่าย:
การปกป้องเครือข่ายและบริการต่างๆของเครือข่ายจากการเปลี่ยน
แปลง, ทำลาย, หรือเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต
และให้ความรับรองว่าเครือข่ายจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ที่สำคัญได้อย่างถูก
ต้องโดยไม่เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย
การรักษาความปลอดภัยเครือข่ายรวมถึงการรักษาความสมบูรณ์ของข้อมูล (Data
Integrity)
9.RISK Management หมายถึง โอกาสที่จะเกิดความผิดพลาด
ความเสียหาย การรั่วไหล ความสูญเปล่า
หรือเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ที่ทำให้งานไม่ประสบความสำเร็จตามวัตถุ
ประสงค์และเป้าหมายที่กำหนด หรือ ความเสี่ยง คือ
ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นและมีผลต่อการบรรลุเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่
ตั้งใจไว้
ความเสี่ยงนี้จะถูกวัดด้วยผลกระทบที่ได้รับและความน่าจะเป็นของเหตุการณ์
หรือ “โอกาสหรือเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ที่จะทำให้เราไม่บรรลุวัตถุ
ประสงค์” ภาษาง่าย ๆ “ ความเสี่ยง คือ สิ่งต่าง
ๆที่อาจกีดกันองค์กรจากการบรรลุวัตถุประสงค์/เป้าหมาย
10.Cryptographyคำแปล / ความหมาย การเข้ารหัสลับ
: ศิลปะในศาสตร์ที่เกี่ยวเนื่องกับหลักการ
ตัวกลาง และวิธีการในการทำให้ข้อความธรรมดาไม่สามารถถูกอ่านได้ โดยเข้าใจ
และในการแปลงข้อความที่ถูกเข้ารหัสลับกลับเป็นข้อความธรรมดา เป็นต้น
วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2557
วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557
ภัยคุกคามบนระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
Adware & Spyware
Adware (แอดแวร์) หรือ Spyware (สปายแวร์) สองคำนี้จะได้ยินบ่อยพอ ๆ กับคำว่า Virus (ไวรัส) เมื่อก้าวเข้าสู่การใช้งานระบบเครือข่าย ความหมายของมันคือ โปรแกรมที่แฝงตัวมาอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ของเรา และแอบทำการส่งข้อมูลการใช้อินเตอร์เน็ตของเราไปให้ผู้ที่ต้องการข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง ชื่อเรียกอาจจะมี หลายชื่อแต่มีความหมายเดียวกัน เช่น Malware , Trackware , Hijackware , Thiefware , Snoopware หรือ Scumware แล้วแต่ใครจะเรียก
ภัยคุกคามบนระบบคอมพิวเตอร์
รูปภาพจาก http://techproblems.org/how-to-remove-adware-and-spyware/
Adware คืออะไร
Adware (Advertising Supported Software) "โปรแกรมสนับสนุนโฆษณา" เป็นซอฟต์แวร์ที่แสดงโฆาษณาหรือดาวน์โหลดโฆษณาแบบอัตโนมัติหลังจากที่คอมพิวเตอร์ได้ทําการติดตั้งโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ โดยปกติแล้วAdware จะไม่รายชื่อโปรแกรมใน Program files ไม่มี icon ที่ task bar ส่วนใหญ่แล้ว Adware จะไม่มีส่วนที่ใช้ถอนการติดตั้งโปรแกรม
ตัวอย่าง Adware
รูปภาพจาก http://www.pctools.com/security-news/what-is-adware-and-spyware/
Spyware คืออะไร
Spyware ในวิทยาการคอมพิวเตอร์ หมายถึง "ซอฟต์แวร์สอดแนม" (spying software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ออกแบบเพื่อสังเกตการณ์ ดักจับข้อมูล หรือควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยที่ผู้ใช้ไม่ทราบว่าได้ติดตั้งเอาไว้
ในความหมายทั่วไป Spyware คือ "โปรแกรมสายลับ" เป็นประเภทโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่บันทึกการ
กระทำของผู้ใช้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ และส่งผ่านอินเตอร์เน็ต โดยที่ผู้ใช้ไม่ทราบว่าโดนแอบดักข้อมูล ซึ่งสามารถรวบรวมข้อมูลสถิติการใช้งานจากผู้ใช้ได้หลายอย่างขึ้นอยู่กับการออกแบบของโปรแกรม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วบันทึกเว็บไซต์ที่ผู้ใช้เข้าถึง และส่งไปยังบริษัทโฆษณาต่างๆ บางโปรแกรมอาจบันทึกว่า ผู้ใช้พิมพ์อะไรบ้าง เพื่อพยายามค้นหารหัสผ่าน หรือเลขหมายบัตรเครดิต
บางครั้งถูกเรียกว่า Spybot หรือ Tacking Sofware เข้าใจง่ายๆ ก็คือ มันล้วงลับข้อมูลของเรา โดยที่เราไม่รู้ตัวแล้วส่งข้อมูลของเรา ไปให้กับผู้ผลิตSpyware นั่นเอง
ตัวอย่าง Spyware
รูปภาพจาก http://ccs.sut.ac.th/2012/index.php/helpdesk/helpdesk-faqs/249-help-241105
Adware มาจากไหน
โปรแกรมโฆษณาเหล่านี้เข้ามายังเครื่องได้ด้วยการแฝงมากับติดตั้งซอฟแวร์ฟรีต่างๆ เช่นโปรแกรม เปิดเพลง เล่นวีดีโอ,การสตรีมมิ่งวีดีโอ (ดูวีดีโอออนไลน์),โปรแกรมช่วยดาวน์โหลดหรือโปรแกรมสร้างไฟล์ PDF เป็นต้น
โฆษณา Adware
รูปภาพจาก http://pantip.com/topic/31452901
วิธีการป้องกันไม่ให้ติด Adware
ในส่วนของการป้องโปรแกรมเหล่านี้ไม่ให้ติดตั้งลงเครื่องทำได้ง่ายๆ ควรดาวน์โหลดโปรแกรมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ อาจเป็นเว็บไซด์เจ้าของโปรแกรมโดยตรง หรือเว็บที่แนะนำโปรแกรมฟรีแวร์โดยเฉพาะ (ไม่ใช้เว็บฟากไฟล์) เมื่อดาวน์โหดลโปรแกรมมาแล้วสิ่งที่ต้องทำต่อไปคือ ควรเลือกติดตั้งแบบกำหนดเอง(Custom Install) คลิก ยกเลิกการเลือกโปรแกรมที่ไม่รู้จัก หรือไม่ต้องการออกไป เพียงเท่านี้เครื่องก็ห่างไกลจาก Adware แล้ว
ป้องกัน Adware & Spyware
รูปภาพจาก http://mrspyware.com/tag/remover/
วิธีการแก้ไขเมื่อติด Adware
ทางแก้เมื่อติด Adwareวิธีการลบ pop-up โฆษณา เมื่อโปรแกรมโฆษณาแฝงอยู่ในเครื่อง
1. ถอนการติดตั้งโปรแกรม DiVapton,1ClickDownload,Superfish,Yontoo,FBPhotoZoom หรือโปรแกรมอื่นที่ไม่รู้จักออก
2. หากไม่สามารถถอนการติดตั้งโปรแกรม ออกจากเครื่องได้ ให้ใช้ Revo Uninstaller แทน ซึ่งโปรแกรมตัวนี้สามารถลบมันอกไปจากคอมพิวเตอร์อย่างสมบูรณ์เช่นกัน
3. จากนั้นก็ไปลบมันออกจากเบราเซอร์ เช่น Internet Explorer, Firefox และ Google Chrome ด้วยโปรแกรม AdwCleaner
Spyware มาจากไหน
Spyware ไม่จำเป็นต้องกระจายไปในลักษณะเดียวกับไวรัสหรือหนอน ซึ่ง Spyware จะติดตั้งตัวเองในระบบ โดยการหลอกลวงผู้ใช้หรือโดยการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ซอฟต์แวร์ พวก Spyware จะติดได้หลายทางแต่หลัก ๆ คือ
1. เข้าเยี่ยมเว็บไซท์ต่าง ๆ พอเว็บไซท์บอกให้ดาวน์โหลดโปรแกรม ก็ดาวน์โหลดมา โดยไม่อ่านว่าเป็นอะไร
2. ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรีที่เรียกว่า Freeware มาใช้ ควรศึกษาให้ดีก่อนเพราะโปรแกรมฟรีหลายตัวจะมี
Spyware ติดมาด้วยเป็นของแถม เช่น โปรแกรม Kazaa Media Desktop ซึ่งเป็นโปรแกรมให้ผู้ใช้แลกเปลี่ยนไฟล์กันเหมือนกับโปรแกรม Napster ขณะนี้มีผู้ใช้โปรแกรม Kazaa เป็นล้าน ๆ คน เพราะสามารถใช้ดาวน์โหลดเพลง MP3 ฟรีได้ ซึ่ง Kazaa นั้น จะมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบใช้ฟรี กับแบบเสียเงิน ถ้าเป็นแบบฟรี เขาจะแถม Spyware มาด้วยกว่า 10 ตัว
3. เปิดโปรแกรมที่ส่งมากับอีเมล์ บางทีเพื่อนส่งอีเมล์มาให้พร้อมโปรแกรมสวยงาม ซึ่งเพื่อนเองก็ไม่รู้ว่ามี
Spyware อยู่ด้วย ก็ส่งต่อ ๆ กันไปสนุกสนาน เวลาใช้อินเตอร์เน็ตก็เลยมีหน้าต่างโฆษณาโผล่มา 80 เลยทีเดียว
ข้อสังเกตเมื่อติด Spyware
ทันทีที่ Spyware เข้ามาอยู่ในเครื่อง มันจะแสดงลักษณะพิเศษของโปรแกรมออกมา คือ นำเสนอหน้าเว็บโฆษณาเชิญชวนให้คลิกทุกครั้งที่เราออนไลน์อินเทอร์เน็ต โดยมาในรูปต่างๆ กัน ดังนี้
1. มี Pop up ขึ้นมาบ่อยครั้งที่เข้าเว็บจนนับไม่ถ้วน
2. ทูลบาร์มีแถบปุ่มเครื่องมือเพิ่มขึ้น
3. หน้า Desktop มีไอคอนประหลาดๆ เพิ่มขึ้น
4. เมื่อเปิด Internet Explorer หน้าเว็บแรกที่เซ็ตค่าไว้ถูกเปลี่ยนไปในทันที เป็นเว็บที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน
5. ต้องการเข้าสู่เว็บไซต์และพิมพ์ที่อยู่แอคเคาน์ (URL) ลงไปอย่างถูกต้องแล้วแต่เว็บบราวเซอร์จะเข้าสู่เว็บไซต์ที่สปายแวร์ได้ตั้งไว้ และแสดงหน้าเว็บเหล่านั้น แทนที่จะเข้าไปยังเว็บไซต์ที่คุณต้องการ
6. มีแถบเครื่องมือใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็น หรือไม่คุ้นเคยเกิดขึ้นบนเว็บบราวเซอร์
7. บริเวณ task tray ในส่วนแสดงการเปิดโปรแกรมที่กำลังรันอยู่ด้านล่างของหน้าต่างวินโดว์จะปรากฏแถบแสดงเครื่องมือหรือไอคอนที่ไม่เคยเห็นมาก่อน หรือไอคอนแปลกๆ
8. เมื่อเรียก search engine ที่เคยใช้ในการค้นหาขึ้นมา และทำการค้นหาหรือทันทีที่คลิกปุ่ม search เว็บบราวเซอร์จะไปเรียกหน้าเว็บที่แตกต่างไปจากเดิม
9. ฟังก์ชั่นบนคีย์บอร์ดบางอย่างที่เคยใช้งานจะเกิดอาการผิดปกติ เช่น เคยกดปุ่ม tab เพื่อเลื่อนไปยังช่องกรอกข้อความในฟิลด์ถัดไปบนหน้าเว็บจะไม่สามารถใช้ในการเลื่อนตำแหน่งได้เหมือนเดิม
10. ข้อความแสดงความผิดพลาดของซอฟต์แวร์วินโดว์จะเริ่มปรากฏบ่อยมากขึ้น
11. เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำงานช้าลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อสั่งเปิดโปรแกรมหลายโปรแกรม หรือทำงานหลายอย่าง โดยเฉพาะในระหว่างการบันทึกแฟ้มข้อมูล
วิธีการป้องกันไม่ให้ถูกโจมตีจาก Spyware
1. ติดตั้งโปรแกรม Anti Spyware ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้ Anti Spyware สามารถตรวจสอบค้นหา Spyware ที่จะเข้าฝั่งตัวอยู่ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ เมื่อตรวจพบ Spyware ก็จะทำการเตือนให้ผู้ใช้ทราบและทำการลบ Spyware ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์โดยทันที
2. ไม่ดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลหรือโปรแกรมจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
3. เมื่อเข้าไปในเว็บไซต์และพบหน้าจอที่ผิดปกติ ควรพิจารณาอ่านข้อความเพื่อตรวจสอบว่า มีการระบุเงื่อนไขการใช้งานอย่างไร หากไม่แน่ใจว่าคืออะไรให้ทำการปิดหน้าจอนั้นโดยทันที หรือคลิกที่เครื่องหมายกากบาท (X)
4. ตรวจสอบ Update โปรแกรม Anti virus เนื่องจากปัจจุบันมีการสร้าง โปรแกรมประเภทไวรัส หรือ Spyware ออกมาเผยแพร่ภายในเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลาทำให้บางครั้ง หากการ Update หรือปรับปรุง anti virus program หรือ Anti Spyware อย่างไม่สม่ำเสมอหรือนานๆครั้ง ก็อาจถูกโจมตีจากไวรัสหรือ Spyware ได้เช่นกัน
Anti Spyware
รูปภาพจาก http://haweganal.wordpress.com/2012/07/04/keamanan-komputer/
วิธีการแก้ไขเมื่อติด Spyware
1. ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสหรือโปรแกรม Anti Spyware โปรแกรมป้องกันไวรัสหลายโปรแกรมจะมาพร้อมกับการป้องกัน Spyware
2. ตรวจสอบโปรแกรมและคุณลักษณะ ดูว่ามีรายการใดบ้างที่คอมพิวเตอร์ไม่ได้เป็นเจ้าของให้ใช้วิธีการนี้ด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด มีโปรแกรมเป็นจำนวนมากแสดงอยู่ในรายการของ 'แผงควบคุม' ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่ Spyware โปรแกรม Spyware จำนวนมากใช้วิธีการพิเศษในการติดตั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการแสดงตัวใน 'โปรแกรมและคุณลักษณะ' หรือโปรแกรม Spyware จะยกเลิกการติดตั้งมาให้ ซึ่งสามารถเอา Spyware ออกไปได้
3. ติดตั้ง Windows ใหม่ Spyware บางตัวซ่อนตัวเองได้ดี จนทำให้ไม่สามารถเอาออกได้ ถ้ายังมีร่องรอยของ Spyware หลังจากพยายามเอาออกด้วยโปรแกรม Anti Spyware หรือหลังจากพยายามถอนการติดตั้งโดยใช้ 'แผงควบคุม' แล้ว อาจจำเป็นต้องติดตั้ง Windows และโปรแกรมต่างๆ ใหม่
โทษของ Adware & Spyware
1.ส่งข้อมูลต่าง ๆ ของเราไปให้ทางบริษัท โดยที่เราไม่รู้ตัว
2.โปรแกรม ถูกรันให้ทำงานในคอมพิวเตอร์ ทำให้เกิดอาการ แฮงค์ เปลืองหน่วยความจำ หรือเปิดโปรแกรมบางตัวไม่ได้ เพราะความจำไม่พอ บางที่เปิดคอมพิวเตอร์ไม่ติดก็มี
3.บางครั้ง Adware & Spyware จะตั้งค่าต่าง ๆ ในระบบ เช่น ค่าเว็บไซต์แรกที่เราเปิดใน Internet Explorer หรือ Netscape Navigator
4.บาง Adware & Spyware ตั้งค่า โมเด็ม ให้หมุนหมายเลขโทรศัพท์ต่างประเทศ ทำให้เสียค่าโทรศัพท์ในอัตราสูง
โทษของ Adware & Spyware
รูปภาพจาก http://viruscom2.com/2012/มาทำความรู้จักกับ-adware-ภัยใกล้ตัวที่คาดไม่ถึง/adware-spyware-2/
http://en.wikipedia.org/wiki/Spyware
http://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=754
http://www.mindphp.com/คู่มือ/73-คืออะไร/2030-spyware-คืออะไร.html
http://www.repair-samui.com/2013/11/adware.html
http://ccs.sut.ac.th/2012/index.php/helpdesk/helpdesk-faqs/249-help-241105
Adware & Spyware
Adware (แอดแวร์) หรือ Spyware (สปายแวร์) สองคำนี้จะได้ยินบ่อยพอ ๆ กับคำว่า Virus (ไวรัส) เมื่อก้าวเข้าสู่การใช้งานระบบเครือข่าย ความหมายของมันคือ โปรแกรมที่แฝงตัวมาอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ของเรา และแอบทำการส่งข้อมูลการใช้อินเตอร์เน็ตของเราไปให้ผู้ที่ต้องการข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง ชื่อเรียกอาจจะมี หลายชื่อแต่มีความหมายเดียวกัน เช่น Malware , Trackware , Hijackware , Thiefware , Snoopware หรือ Scumware แล้วแต่ใครจะเรียก
ภัยคุกคามบนระบบคอมพิวเตอร์
รูปภาพจาก http://techproblems.org/how-to-remove-adware-and-spyware/
Adware คืออะไร
Adware (Advertising Supported Software) "โปรแกรมสนับสนุนโฆษณา" เป็นซอฟต์แวร์ที่แสดงโฆาษณาหรือดาวน์โหลดโฆษณาแบบอัตโนมัติหลังจากที่คอมพิวเตอร์ได้ทําการติดตั้งโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ โดยปกติแล้วAdware จะไม่รายชื่อโปรแกรมใน Program files ไม่มี icon ที่ task bar ส่วนใหญ่แล้ว Adware จะไม่มีส่วนที่ใช้ถอนการติดตั้งโปรแกรม
รูปภาพจาก http://www.pctools.com/security-news/what-is-adware-and-spyware/
Spyware คืออะไร
Spyware ในวิทยาการคอมพิวเตอร์ หมายถึง "ซอฟต์แวร์สอดแนม" (spying software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ออกแบบเพื่อสังเกตการณ์ ดักจับข้อมูล หรือควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยที่ผู้ใช้ไม่ทราบว่าได้ติดตั้งเอาไว้
ในความหมายทั่วไป Spyware คือ "โปรแกรมสายลับ" เป็นประเภทโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่บันทึกการ
กระทำของผู้ใช้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ และส่งผ่านอินเตอร์เน็ต โดยที่ผู้ใช้ไม่ทราบว่าโดนแอบดักข้อมูล ซึ่งสามารถรวบรวมข้อมูลสถิติการใช้งานจากผู้ใช้ได้หลายอย่างขึ้นอยู่กับการออกแบบของโปรแกรม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วบันทึกเว็บไซต์ที่ผู้ใช้เข้าถึง และส่งไปยังบริษัทโฆษณาต่างๆ บางโปรแกรมอาจบันทึกว่า ผู้ใช้พิมพ์อะไรบ้าง เพื่อพยายามค้นหารหัสผ่าน หรือเลขหมายบัตรเครดิต
บางครั้งถูกเรียกว่า Spybot หรือ Tacking Sofware เข้าใจง่ายๆ ก็คือ มันล้วงลับข้อมูลของเรา โดยที่เราไม่รู้ตัวแล้วส่งข้อมูลของเรา ไปให้กับผู้ผลิตSpyware นั่นเอง
ตัวอย่าง Spyware
รูปภาพจาก http://ccs.sut.ac.th/2012/index.php/helpdesk/helpdesk-faqs/249-help-241105
Adware มาจากไหน
โปรแกรมโฆษณาเหล่านี้เข้ามายังเครื่องได้ด้วยการแฝงมากับติดตั้งซอฟแวร์ฟรีต่างๆ เช่นโปรแกรม เปิดเพลง เล่นวีดีโอ,การสตรีมมิ่งวีดีโอ (ดูวีดีโอออนไลน์),โปรแกรมช่วยดาวน์โหลดหรือโปรแกรมสร้างไฟล์ PDF เป็นต้น
โฆษณา Adware
รูปภาพจาก http://pantip.com/topic/31452901
วิธีการป้องกันไม่ให้ติด Adware
ในส่วนของการป้องโปรแกรมเหล่านี้ไม่ให้ติดตั้งลงเครื่องทำได้ง่ายๆ ควรดาวน์โหลดโปรแกรมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ อาจเป็นเว็บไซด์เจ้าของโปรแกรมโดยตรง หรือเว็บที่แนะนำโปรแกรมฟรีแวร์โดยเฉพาะ (ไม่ใช้เว็บฟากไฟล์) เมื่อดาวน์โหดลโปรแกรมมาแล้วสิ่งที่ต้องทำต่อไปคือ ควรเลือกติดตั้งแบบกำหนดเอง(Custom Install) คลิก ยกเลิกการเลือกโปรแกรมที่ไม่รู้จัก หรือไม่ต้องการออกไป เพียงเท่านี้เครื่องก็ห่างไกลจาก Adware แล้ว
ป้องกัน Adware & Spyware
รูปภาพจาก http://mrspyware.com/tag/remover/
วิธีการแก้ไขเมื่อติด Adware
ทางแก้เมื่อติด Adwareวิธีการลบ pop-up โฆษณา เมื่อโปรแกรมโฆษณาแฝงอยู่ในเครื่อง
1. ถอนการติดตั้งโปรแกรม DiVapton,1ClickDownload,Superfish,Yontoo,FBPhotoZoom หรือโปรแกรมอื่นที่ไม่รู้จักออก
2. หากไม่สามารถถอนการติดตั้งโปรแกรม ออกจากเครื่องได้ ให้ใช้ Revo Uninstaller แทน ซึ่งโปรแกรมตัวนี้สามารถลบมันอกไปจากคอมพิวเตอร์อย่างสมบูรณ์เช่นกัน
3. จากนั้นก็ไปลบมันออกจากเบราเซอร์ เช่น Internet Explorer, Firefox และ Google Chrome ด้วยโปรแกรม AdwCleaner
Spyware มาจากไหน
Spyware ไม่จำเป็นต้องกระจายไปในลักษณะเดียวกับไวรัสหรือหนอน ซึ่ง Spyware จะติดตั้งตัวเองในระบบ โดยการหลอกลวงผู้ใช้หรือโดยการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ซอฟต์แวร์ พวก Spyware จะติดได้หลายทางแต่หลัก ๆ คือ
1. เข้าเยี่ยมเว็บไซท์ต่าง ๆ พอเว็บไซท์บอกให้ดาวน์โหลดโปรแกรม ก็ดาวน์โหลดมา โดยไม่อ่านว่าเป็นอะไร
2. ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรีที่เรียกว่า Freeware มาใช้ ควรศึกษาให้ดีก่อนเพราะโปรแกรมฟรีหลายตัวจะมี
Spyware ติดมาด้วยเป็นของแถม เช่น โปรแกรม Kazaa Media Desktop ซึ่งเป็นโปรแกรมให้ผู้ใช้แลกเปลี่ยนไฟล์กันเหมือนกับโปรแกรม Napster ขณะนี้มีผู้ใช้โปรแกรม Kazaa เป็นล้าน ๆ คน เพราะสามารถใช้ดาวน์โหลดเพลง MP3 ฟรีได้ ซึ่ง Kazaa นั้น จะมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบใช้ฟรี กับแบบเสียเงิน ถ้าเป็นแบบฟรี เขาจะแถม Spyware มาด้วยกว่า 10 ตัว
3. เปิดโปรแกรมที่ส่งมากับอีเมล์ บางทีเพื่อนส่งอีเมล์มาให้พร้อมโปรแกรมสวยงาม ซึ่งเพื่อนเองก็ไม่รู้ว่ามี
Spyware อยู่ด้วย ก็ส่งต่อ ๆ กันไปสนุกสนาน เวลาใช้อินเตอร์เน็ตก็เลยมีหน้าต่างโฆษณาโผล่มา 80 เลยทีเดียว
ข้อสังเกตเมื่อติด Spyware
ทันทีที่ Spyware เข้ามาอยู่ในเครื่อง มันจะแสดงลักษณะพิเศษของโปรแกรมออกมา คือ นำเสนอหน้าเว็บโฆษณาเชิญชวนให้คลิกทุกครั้งที่เราออนไลน์อินเทอร์เน็ต โดยมาในรูปต่างๆ กัน ดังนี้
1. มี Pop up ขึ้นมาบ่อยครั้งที่เข้าเว็บจนนับไม่ถ้วน
2. ทูลบาร์มีแถบปุ่มเครื่องมือเพิ่มขึ้น
3. หน้า Desktop มีไอคอนประหลาดๆ เพิ่มขึ้น
4. เมื่อเปิด Internet Explorer หน้าเว็บแรกที่เซ็ตค่าไว้ถูกเปลี่ยนไปในทันที เป็นเว็บที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน
5. ต้องการเข้าสู่เว็บไซต์และพิมพ์ที่อยู่แอคเคาน์ (URL) ลงไปอย่างถูกต้องแล้วแต่เว็บบราวเซอร์จะเข้าสู่เว็บไซต์ที่สปายแวร์ได้ตั้งไว้ และแสดงหน้าเว็บเหล่านั้น แทนที่จะเข้าไปยังเว็บไซต์ที่คุณต้องการ
6. มีแถบเครื่องมือใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็น หรือไม่คุ้นเคยเกิดขึ้นบนเว็บบราวเซอร์
7. บริเวณ task tray ในส่วนแสดงการเปิดโปรแกรมที่กำลังรันอยู่ด้านล่างของหน้าต่างวินโดว์จะปรากฏแถบแสดงเครื่องมือหรือไอคอนที่ไม่เคยเห็นมาก่อน หรือไอคอนแปลกๆ
8. เมื่อเรียก search engine ที่เคยใช้ในการค้นหาขึ้นมา และทำการค้นหาหรือทันทีที่คลิกปุ่ม search เว็บบราวเซอร์จะไปเรียกหน้าเว็บที่แตกต่างไปจากเดิม
9. ฟังก์ชั่นบนคีย์บอร์ดบางอย่างที่เคยใช้งานจะเกิดอาการผิดปกติ เช่น เคยกดปุ่ม tab เพื่อเลื่อนไปยังช่องกรอกข้อความในฟิลด์ถัดไปบนหน้าเว็บจะไม่สามารถใช้ในการเลื่อนตำแหน่งได้เหมือนเดิม
10. ข้อความแสดงความผิดพลาดของซอฟต์แวร์วินโดว์จะเริ่มปรากฏบ่อยมากขึ้น
11. เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำงานช้าลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อสั่งเปิดโปรแกรมหลายโปรแกรม หรือทำงานหลายอย่าง โดยเฉพาะในระหว่างการบันทึกแฟ้มข้อมูล
วิธีการป้องกันไม่ให้ถูกโจมตีจาก Spyware
1. ติดตั้งโปรแกรม Anti Spyware ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้ Anti Spyware สามารถตรวจสอบค้นหา Spyware ที่จะเข้าฝั่งตัวอยู่ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ เมื่อตรวจพบ Spyware ก็จะทำการเตือนให้ผู้ใช้ทราบและทำการลบ Spyware ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์โดยทันที
2. ไม่ดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลหรือโปรแกรมจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
3. เมื่อเข้าไปในเว็บไซต์และพบหน้าจอที่ผิดปกติ ควรพิจารณาอ่านข้อความเพื่อตรวจสอบว่า มีการระบุเงื่อนไขการใช้งานอย่างไร หากไม่แน่ใจว่าคืออะไรให้ทำการปิดหน้าจอนั้นโดยทันที หรือคลิกที่เครื่องหมายกากบาท (X)
4. ตรวจสอบ Update โปรแกรม Anti virus เนื่องจากปัจจุบันมีการสร้าง โปรแกรมประเภทไวรัส หรือ Spyware ออกมาเผยแพร่ภายในเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลาทำให้บางครั้ง หากการ Update หรือปรับปรุง anti virus program หรือ Anti Spyware อย่างไม่สม่ำเสมอหรือนานๆครั้ง ก็อาจถูกโจมตีจากไวรัสหรือ Spyware ได้เช่นกัน
Anti Spyware
รูปภาพจาก http://haweganal.wordpress.com/2012/07/04/keamanan-komputer/
วิธีการแก้ไขเมื่อติด Spyware
1. ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสหรือโปรแกรม Anti Spyware โปรแกรมป้องกันไวรัสหลายโปรแกรมจะมาพร้อมกับการป้องกัน Spyware
2. ตรวจสอบโปรแกรมและคุณลักษณะ ดูว่ามีรายการใดบ้างที่คอมพิวเตอร์ไม่ได้เป็นเจ้าของให้ใช้วิธีการนี้ด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด มีโปรแกรมเป็นจำนวนมากแสดงอยู่ในรายการของ 'แผงควบคุม' ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่ Spyware โปรแกรม Spyware จำนวนมากใช้วิธีการพิเศษในการติดตั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการแสดงตัวใน 'โปรแกรมและคุณลักษณะ' หรือโปรแกรม Spyware จะยกเลิกการติดตั้งมาให้ ซึ่งสามารถเอา Spyware ออกไปได้
3. ติดตั้ง Windows ใหม่ Spyware บางตัวซ่อนตัวเองได้ดี จนทำให้ไม่สามารถเอาออกได้ ถ้ายังมีร่องรอยของ Spyware หลังจากพยายามเอาออกด้วยโปรแกรม Anti Spyware หรือหลังจากพยายามถอนการติดตั้งโดยใช้ 'แผงควบคุม' แล้ว อาจจำเป็นต้องติดตั้ง Windows และโปรแกรมต่างๆ ใหม่
โทษของ Adware & Spyware
1.ส่งข้อมูลต่าง ๆ ของเราไปให้ทางบริษัท โดยที่เราไม่รู้ตัว
2.โปรแกรม ถูกรันให้ทำงานในคอมพิวเตอร์ ทำให้เกิดอาการ แฮงค์ เปลืองหน่วยความจำ หรือเปิดโปรแกรมบางตัวไม่ได้ เพราะความจำไม่พอ บางที่เปิดคอมพิวเตอร์ไม่ติดก็มี
3.บางครั้ง Adware & Spyware จะตั้งค่าต่าง ๆ ในระบบ เช่น ค่าเว็บไซต์แรกที่เราเปิดใน Internet Explorer หรือ Netscape Navigator
4.บาง Adware & Spyware ตั้งค่า โมเด็ม ให้หมุนหมายเลขโทรศัพท์ต่างประเทศ ทำให้เสียค่าโทรศัพท์ในอัตราสูง
โทษของ Adware & Spyware
รูปภาพจาก http://viruscom2.com/2012/มาทำความรู้จักกับ-adware-ภัยใกล้ตัวที่คาดไม่ถึง/adware-spyware-2/
http://en.wikipedia.org/wiki/Spyware
http://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=754
http://www.mindphp.com/คู่มือ/73-คืออะไร/2030-spyware-คืออะไร.html
http://www.repair-samui.com/2013/11/adware.html
http://ccs.sut.ac.th/2012/index.php/helpdesk/helpdesk-faqs/249-help-241105
วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2557
คำศัพท์เกี่ยวกับ Computer Security, Informarion Security ครั้งที่ 1
1. Spyware คือ โปรแกรมเล็ก ๆ ที่ถูกเขียนขึ้นมาสอดส่อง
(สปาย) การใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ อาจจะเพื่อโฆษณาสินค้าต่าง ๆ
สปายแวร์บางตัวก็สร้างความรำคาญเพราะจะเปิดหน้าต่างโฆษณาบ่อย ๆ
แต่บางตัวร้ายกว่านั้น คือ ทำให้ใช้อินเตอร์เน็ทไม่ได้เลย
ไม่ว่าจะไปเว็บไหน ก็จะโชว์หน้าต่างโฆษณา
หรืออาจจะเป็นเว็บประเภทลามกอนาจาร พร้อมกับป๊อปอัพหน้าต่างเป็นสิบ ๆ
หน้าต่าง
2.Macro Viruses คือ ไวรัสสายพันธุ์ที่ก่อกวนโปรแกรมสำนักงานต่างๆ เช่น MS Word, Excel, PowerPoint เป็นชุดคำสั่งเล็กๆ ทำงานอัตโนมัติ ติดต่อด้วยการสำเนาไฟล์จากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง มักจะทำให้ไฟล์มีขนาดใหญ่ขึ้นผิดปกติ การทำงานจะหยุดชะงักโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือทำให้ไฟล์เสียหาย
3.Availability คือ ความพร้อมใช้ การรับรองว่าข้อมูลและบริการการสื่อสารต่าง ๆ พร้อมที่จะใช้ได้ในเวลาที่ต้องการใช้งาน
4.Phishing คือการปลอมแปลง e-mailห รือ web site รูปแบบหนึ่ง มีวัตถุประสงค์ที่จะต้องการข้อมูลข่าวสารต่างๆ โดยส่วนมากข่าวสารที่คนส่ง phishing ต้องการมากก็คือ user, Password และหมายเลขบัตรเครดิต
5.Computer Security คือ ความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ ระเบียบการทางเทคนิคและทางการบริหารที่นำมาใช้กับระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อให้มั่นใจถึงความพร้อมใช้งาน
6.Credibility คือ ความน่าเชื่อถือ เช่น สารสนเทศที่น่าเชื่อถือก็คือสารสนเทศที่เราเชื่อได้นั่นเอง ความน่าเชื่อถือยังมีลักษณะสองประการคือ ความรู้สึกว่ามีคุณภาพ
7.Routing Control คือ การใช้กฎต่างๆในระหว่างกระบวน การ routing เพื่อที่จะเลือกหรือหลีกเลี่ยงเครือข่ายใดเครือข่ายหนึ่ง, link ใด link หนึ่ง, หรือ relay ตัวใดตัวหนึ่ง
8. Malicious Software (หรือ Malware) คือประเภทของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้นมา โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะทำลายหรือสร้างความเสียหายให้แก่ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบเครือข่าย หรือทรัพย์สินและข้อมูลของผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ ประเภทของ malware ต่างๆ
9.Key Logger คือ อาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร์ที่รุนแรงมากอย่างหนึ่ง เพราะผู้ไม่หวังดีจะบันทึกการกดแป้นพิมพ์บนคอมพิวเตอร์ของคุณ ขโมยข้อมูลทุกอย่างที่อยู่บนเครื่อง และความลับทุกอย่างที่คุณพิมพ์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณไป เพื่อข่มขู่ แบล็กเมล นำรหัสบัตรเครดิตไปซื้อสินค้า รวมทั้งนำข้อมูลไปใช้ในทางมิชอบอื่นๆ
10.Key pair หรือคู่กุญแจ หมายถึง ระบบการเข้ารหัสและถอดรหัสข้อมูล โดยผู้ส่งและผู้รับจะมีกุญแจคนละดอกที่ไม่เหมือนกัน ผู้ส่งใช้กุญแจดอกหนึ่งในการเข้ารหัสข้อมูลที่เรียกว่า กุญแจสาธารณะ (Public key)
2.Macro Viruses คือ ไวรัสสายพันธุ์ที่ก่อกวนโปรแกรมสำนักงานต่างๆ เช่น MS Word, Excel, PowerPoint เป็นชุดคำสั่งเล็กๆ ทำงานอัตโนมัติ ติดต่อด้วยการสำเนาไฟล์จากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง มักจะทำให้ไฟล์มีขนาดใหญ่ขึ้นผิดปกติ การทำงานจะหยุดชะงักโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือทำให้ไฟล์เสียหาย
3.Availability คือ ความพร้อมใช้ การรับรองว่าข้อมูลและบริการการสื่อสารต่าง ๆ พร้อมที่จะใช้ได้ในเวลาที่ต้องการใช้งาน
4.Phishing คือการปลอมแปลง e-mailห รือ web site รูปแบบหนึ่ง มีวัตถุประสงค์ที่จะต้องการข้อมูลข่าวสารต่างๆ โดยส่วนมากข่าวสารที่คนส่ง phishing ต้องการมากก็คือ user, Password และหมายเลขบัตรเครดิต
5.Computer Security คือ ความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ ระเบียบการทางเทคนิคและทางการบริหารที่นำมาใช้กับระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อให้มั่นใจถึงความพร้อมใช้งาน
6.Credibility คือ ความน่าเชื่อถือ เช่น สารสนเทศที่น่าเชื่อถือก็คือสารสนเทศที่เราเชื่อได้นั่นเอง ความน่าเชื่อถือยังมีลักษณะสองประการคือ ความรู้สึกว่ามีคุณภาพ
7.Routing Control คือ การใช้กฎต่างๆในระหว่างกระบวน การ routing เพื่อที่จะเลือกหรือหลีกเลี่ยงเครือข่ายใดเครือข่ายหนึ่ง, link ใด link หนึ่ง, หรือ relay ตัวใดตัวหนึ่ง
8. Malicious Software (หรือ Malware) คือประเภทของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้นมา โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะทำลายหรือสร้างความเสียหายให้แก่ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบเครือข่าย หรือทรัพย์สินและข้อมูลของผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ ประเภทของ malware ต่างๆ
9.Key Logger คือ อาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร์ที่รุนแรงมากอย่างหนึ่ง เพราะผู้ไม่หวังดีจะบันทึกการกดแป้นพิมพ์บนคอมพิวเตอร์ของคุณ ขโมยข้อมูลทุกอย่างที่อยู่บนเครื่อง และความลับทุกอย่างที่คุณพิมพ์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณไป เพื่อข่มขู่ แบล็กเมล นำรหัสบัตรเครดิตไปซื้อสินค้า รวมทั้งนำข้อมูลไปใช้ในทางมิชอบอื่นๆ
10.Key pair หรือคู่กุญแจ หมายถึง ระบบการเข้ารหัสและถอดรหัสข้อมูล โดยผู้ส่งและผู้รับจะมีกุญแจคนละดอกที่ไม่เหมือนกัน ผู้ส่งใช้กุญแจดอกหนึ่งในการเข้ารหัสข้อมูลที่เรียกว่า กุญแจสาธารณะ (Public key)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)